พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
พระครูขันตยาคม ...
พระครูขันตยาคม (อิ่ม) วัดศีลขันธ์ อ่างทอง
พระครูขันตยาคม (อิ่ม) เกิดเมื่อปีพ.ศ.2389 ที่บ้านคลองมะขาม ตำบลหัวลิง ปัจจุบันเป็นตำบลอ่างแก้ว อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง ท่านเป็นบุตรของคุณทวดอ่ำ และคุณทวดอำแดงขอม เมื่อตอนวัยเด็กได้เรียนหนังสืออยู่ที่วัดจุฬามณี บ้านคลองหงส์ อยู่กับหลวงลุงของท่านซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ จนอ่านออกเขียนได้ทั้งภาษาไทยและขอม แถมด้วยวิชาคงกระพัน และวิทยาคมต่างๆ จากหลวงลุงของท่าน
พออายุได้ 16 ปีท่านมักจะถือกระบองเป็นอาวุธประจำกาย ท่านไม่ทำร้ายใคร เพียงแต่ชอบท้าพวกนักเลงหัวไม้เอากันพอเลือดออกเป็นยางบอนแล้วเลิกรากัน พอรู้แพ้รู้ชนะ มีคนร่ำลือและเชื่อถือในฝีมือไปหลายคุ้งน้ำ หลวงลุงของท่านก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ในปีพ.ศ.2405 จึงให้บรรพชาเป็นสามเณรเสีย และจำพรรษาอยู่ที่วัดจุฬามณี ท่านก็ได้ช่วยหลวงลุงของท่านตีเหล็กทำเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ท่านเป็นผู้ขยัน และหมั่นเพียร มีเมตตากรุณาสูง ชอบช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากอยู่เสมอ จนสามเณรอิ่มเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านกันทั้งบาง
ต่อมาเมื่อท่านมีอายุครบบวช หลวงลุงของท่านรู้จักมักคุ้นกับท่านเจ้าอาวาสวัดเขมาภิรตาราม นนทบุรี จึงนำท่านมาฝากเล่าเรียนบาลีและพระปริยัติต่อ และอุปสมบทที่วัดแห่งนี้ พระอุปัชฌาย์และพระอาจารย์คู่สวดนั้นสืบค้นประวัติไม่ได้ว่าเป็นใคร หลวงปู่อิ่มอยู่จำพรรษาและศึกษาอยู่ที่วัดเขมาฯ อยู่ระยะหนึ่งจึงได้ย้ายเข้ามาจำพรรษาอยู่ที่วัดกันมายุตาราม กทม. และได้สนิทสนมกับท่านเจ้าคุณพระอมราภิรักขิต (เจริญ) ญาณวโร
ต่อมาหลวงปู่อิ่มจึงได้รับพระราชทานแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตร ที่พระครูขันตยาคม ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้อีกหลายพรรษา จนในปีพ.ศ.2441 วัดเทพศิรินทราวาสได้ว่างเจ้าอาวาสลง ท่านเจ้าคุณอมราภิรักขิต (เจริญ) จึงได้รับแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส
และในปีนั้นเองท่านเจ้าคุณอมราภิรักขิต (เจริญ) ได้อาราธนาหลวงปู่อิ่มให้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดเทพศิรินทร์ และกาลต่อมาท่านเจ้าคุณอมราภิรักขิต (เจริญ) ท่านก็ได้พระราชทานสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะ ที่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ) หลวงปู่อิ่มจำพรรษาอยู่ที่วัดเทพศิรินทร์ได้ 6 พรรษา ญาติโยมของหลวงปู่จึงอาราธนาหลวงปู่ให้ย้ายกลับมาสู่ภูมิลำเนาเดิม ท่านจึงได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดโพธิ์เกรียบ ฝั่งตรงข้ามกับบ้านญาติโยมของท่าน หลังจากนั้นท่านก็คิดว่าจะสร้างวัดธรรมยุตขึ้น ณ ฝั่งที่ญาติโยมของท่านอาศัยอยู่ ได้ออกบิณฑบาตแถวบ้านห้วยลิง
และได้แวะ ณ ที่แห่งหนึ่ง เป็นดงสะแก บรรยากาศดี มีกระต่ายป่าวิ่งลัดเลาะอยู่ ท่านเดินเรื่อยมาก็เห็นว่าร่มรื่นภายใต้ต้นยางกับต้นตาล ท่านจึงปูผ้านั่งฉันเช้า เศษอาหารที่เหลือท่านก็ได้เอากองไว้ เจ้ากระต่ายก็มากิน และมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งเข้ามาสนทนากับหลวงปู่อิ่ม ท่านจึงบอกความประสงค์ที่จะสร้างวัดให้ญาติโยมทราบ ต่อมาอีกไม่นานปรากฏว่ามีญาติโยมมาถวายที่ดินหลายแปลง กราบนมัสการหลวงปู่และช่วยกันสร้างเพิงพักให้ท่าน
ท่านก็เลยพำนักอยู่ ณ ที่ตรงนั้น ตั้งแต่ปีพ.ศ.2446 เป็นต้นมา พวกชาวบ้านก็ได้ร่วมมือกันสร้างวัด บ้างก็รื้อเรือนมาถวายให้สร้างกุฏิให้พระเณรได้อยู่จำพรรษา นำลูกหลานมาบวช ท่านก็พาไปบวชที่วัดเทพศิรินทร์ อีก 3 ปีต่อมาก็กลายเป็นวัด ชาวบ้านมักเรียกขานกันว่าวัดดอนกระต่ายบ้าง
เนื่องจากมีกระต่ายป่าชุกชุม บ้างก็เรียกวัดสลักแกง บ้างก็เรียกวัดศีลขันธ์ เพราะเป็นที่อยู่ของผู้ทรงศีลและไปคล้องกับนามของหลวงปู่ คือ พระครูขันตยาคม ความศรัทธาในหลวงปู่ทวีขึ้นโดยลำดับ มีพระภิกษุสามเณรมากขึ้น และในปีพ.ศ.2449 วัดแห่งนี้ก็ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา นามว่าวัดศีลขันธาราม
หลวงปู่อิ่มท่านมรณภาพในปีพ.ศ.2469 สิริอายุได้ 80 ปี พรรษาที่ 60 ประชุมเพลิงในปีพ.ศ.2470
ผู้เข้าชม
1606 ครั้ง
ราคา
โชว์พระ
สถานะ
โชว์พระ
โดย
ชื่อร้าน
พุทธพิมพ์
ร้านค้า
โทรศัพท์
ไอดีไลน์
tuonly , 0818158299
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกรุงเทพ / 146-0-55888-3
2. ธนาคารไทยพาณิชย์ / 406-5-16595-4

ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
ทองธนบุรีsakunchartเจริญสุขยอด วัดโพธิ์ponsrithong2พล ปากน้ำ
swatfrank_tumErawanเซียนtermboonsadao
เปียโนBAINGERNep8600somphopchathanumaannatthanet
Pumneehoppermanนรินทร์ ทัพไทยปลั๊ก ปทุมธานีเนินพระ99chaithawat
chaokohบ้านพระสมเด็จjochoNithipornvanglannasblom

ผู้เข้าชมขณะนี้ 473 คน

เพิ่มข้อมูล

พระครูขันตยาคม (อิ่ม) วัดศีลขันธ์ อ่างทอง




  ส่งข้อความ



ชื่อพระเครื่อง
พระครูขันตยาคม (อิ่ม) วัดศีลขันธ์ อ่างทอง
รายละเอียด
พระครูขันตยาคม (อิ่ม) เกิดเมื่อปีพ.ศ.2389 ที่บ้านคลองมะขาม ตำบลหัวลิง ปัจจุบันเป็นตำบลอ่างแก้ว อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง ท่านเป็นบุตรของคุณทวดอ่ำ และคุณทวดอำแดงขอม เมื่อตอนวัยเด็กได้เรียนหนังสืออยู่ที่วัดจุฬามณี บ้านคลองหงส์ อยู่กับหลวงลุงของท่านซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ จนอ่านออกเขียนได้ทั้งภาษาไทยและขอม แถมด้วยวิชาคงกระพัน และวิทยาคมต่างๆ จากหลวงลุงของท่าน
พออายุได้ 16 ปีท่านมักจะถือกระบองเป็นอาวุธประจำกาย ท่านไม่ทำร้ายใคร เพียงแต่ชอบท้าพวกนักเลงหัวไม้เอากันพอเลือดออกเป็นยางบอนแล้วเลิกรากัน พอรู้แพ้รู้ชนะ มีคนร่ำลือและเชื่อถือในฝีมือไปหลายคุ้งน้ำ หลวงลุงของท่านก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ในปีพ.ศ.2405 จึงให้บรรพชาเป็นสามเณรเสีย และจำพรรษาอยู่ที่วัดจุฬามณี ท่านก็ได้ช่วยหลวงลุงของท่านตีเหล็กทำเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ท่านเป็นผู้ขยัน และหมั่นเพียร มีเมตตากรุณาสูง ชอบช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากอยู่เสมอ จนสามเณรอิ่มเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านกันทั้งบาง
ต่อมาเมื่อท่านมีอายุครบบวช หลวงลุงของท่านรู้จักมักคุ้นกับท่านเจ้าอาวาสวัดเขมาภิรตาราม นนทบุรี จึงนำท่านมาฝากเล่าเรียนบาลีและพระปริยัติต่อ และอุปสมบทที่วัดแห่งนี้ พระอุปัชฌาย์และพระอาจารย์คู่สวดนั้นสืบค้นประวัติไม่ได้ว่าเป็นใคร หลวงปู่อิ่มอยู่จำพรรษาและศึกษาอยู่ที่วัดเขมาฯ อยู่ระยะหนึ่งจึงได้ย้ายเข้ามาจำพรรษาอยู่ที่วัดกันมายุตาราม กทม. และได้สนิทสนมกับท่านเจ้าคุณพระอมราภิรักขิต (เจริญ) ญาณวโร
ต่อมาหลวงปู่อิ่มจึงได้รับพระราชทานแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตร ที่พระครูขันตยาคม ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้อีกหลายพรรษา จนในปีพ.ศ.2441 วัดเทพศิรินทราวาสได้ว่างเจ้าอาวาสลง ท่านเจ้าคุณอมราภิรักขิต (เจริญ) จึงได้รับแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส
และในปีนั้นเองท่านเจ้าคุณอมราภิรักขิต (เจริญ) ได้อาราธนาหลวงปู่อิ่มให้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดเทพศิรินทร์ และกาลต่อมาท่านเจ้าคุณอมราภิรักขิต (เจริญ) ท่านก็ได้พระราชทานสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะ ที่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ) หลวงปู่อิ่มจำพรรษาอยู่ที่วัดเทพศิรินทร์ได้ 6 พรรษา ญาติโยมของหลวงปู่จึงอาราธนาหลวงปู่ให้ย้ายกลับมาสู่ภูมิลำเนาเดิม ท่านจึงได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดโพธิ์เกรียบ ฝั่งตรงข้ามกับบ้านญาติโยมของท่าน หลังจากนั้นท่านก็คิดว่าจะสร้างวัดธรรมยุตขึ้น ณ ฝั่งที่ญาติโยมของท่านอาศัยอยู่ ได้ออกบิณฑบาตแถวบ้านห้วยลิง
และได้แวะ ณ ที่แห่งหนึ่ง เป็นดงสะแก บรรยากาศดี มีกระต่ายป่าวิ่งลัดเลาะอยู่ ท่านเดินเรื่อยมาก็เห็นว่าร่มรื่นภายใต้ต้นยางกับต้นตาล ท่านจึงปูผ้านั่งฉันเช้า เศษอาหารที่เหลือท่านก็ได้เอากองไว้ เจ้ากระต่ายก็มากิน และมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งเข้ามาสนทนากับหลวงปู่อิ่ม ท่านจึงบอกความประสงค์ที่จะสร้างวัดให้ญาติโยมทราบ ต่อมาอีกไม่นานปรากฏว่ามีญาติโยมมาถวายที่ดินหลายแปลง กราบนมัสการหลวงปู่และช่วยกันสร้างเพิงพักให้ท่าน
ท่านก็เลยพำนักอยู่ ณ ที่ตรงนั้น ตั้งแต่ปีพ.ศ.2446 เป็นต้นมา พวกชาวบ้านก็ได้ร่วมมือกันสร้างวัด บ้างก็รื้อเรือนมาถวายให้สร้างกุฏิให้พระเณรได้อยู่จำพรรษา นำลูกหลานมาบวช ท่านก็พาไปบวชที่วัดเทพศิรินทร์ อีก 3 ปีต่อมาก็กลายเป็นวัด ชาวบ้านมักเรียกขานกันว่าวัดดอนกระต่ายบ้าง
เนื่องจากมีกระต่ายป่าชุกชุม บ้างก็เรียกวัดสลักแกง บ้างก็เรียกวัดศีลขันธ์ เพราะเป็นที่อยู่ของผู้ทรงศีลและไปคล้องกับนามของหลวงปู่ คือ พระครูขันตยาคม ความศรัทธาในหลวงปู่ทวีขึ้นโดยลำดับ มีพระภิกษุสามเณรมากขึ้น และในปีพ.ศ.2449 วัดแห่งนี้ก็ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา นามว่าวัดศีลขันธาราม
หลวงปู่อิ่มท่านมรณภาพในปีพ.ศ.2469 สิริอายุได้ 80 ปี พรรษาที่ 60 ประชุมเพลิงในปีพ.ศ.2470
ราคาปัจจุบัน
โชว์พระ
จำนวนผู้เข้าชม
1607 ครั้ง
สถานะ
โชว์พระ
โดย
ชื่อร้าน
พุทธพิมพ์
URL
เบอร์โทรศัพท์
0818158299
ID LINE
tuonly , 0818158299
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
3. ธนาคารกรุงเทพ / 146-0-55888-3
4. ธนาคารไทยพาณิชย์ / 406-5-16595-4




กำลังโหลดข้อมูล

หน้าแรกลงพระฟรี